Last updated: 14 มิ.ย. 2563 | 3889 จำนวนผู้เข้าชม |
เที่ยวโอซาก้า 1 วันด้วยบัตร OSAKA AMAZING PASS
อีกเมืองในการมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยการเลื่องชื่อของปราสาทที่งดงาม และแหล่งช้อปปิ้ง อาหารการกินที่มีชื่อเสียง นั่นคือ โอซาก้า (OSAKA) หากใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็คงต้องมีสักครั้งในชีวิตที่จะไม่พลาดมาเยือนโอซาก้าแห่งนี้ โอซาก้านั่นยังมีข้อดีที่แตกต่างจากเมืองอื่นนั่น นั้นคือมีบัตรท่องเที่ยวโอซาก้าที่ครอบคลุมการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ และค่าเข้าชมต่าง ๆ วันนี้ฟูจะพาไปเที่ยวโอซาก้ากันค่ะด้วยบัตร OSAKA AMAZING PASS บัตรเดียวเอาอยู่เที่ยวเต็มได้ทั้งวัน
OSAKA AMAZING PASS คืออะไร : เป็นบัตรที่ใช้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโอซาก้าที่สามารถใช้โดยสารรถไฟ รถไฟใต้ดิน ที่ไม่ใช่สาย JR หรือรถบัสแบบไม่จำกัดรอบ และครอบคลุมการเข้าชมฟรีของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กว่า 38 แห่งทั่วโอซาก้า ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทโอซาก้าและพิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์โอซาก้า ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Umeda Sky Building เลโก้แลนด์ บ่อน้ำร้อนออนเซ็น ซูมิโนเอะ อีกทั้งนั่งเรือครูซ เรือโจรสลัดทั้งหลาย โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
สำหรับที่แรกที่ฟูจะพาไปเที่ยวโอซาก้ากัน คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) โดยการมายังปราสาทโอซาก้านั้นสามารถนั่งรถไฟมาลงได้หลายสถานี ได้แก่ สถานี Tanimachiyonchome station, สถานี Temmabashi Station หรือสถานี Morinomiya ซึ่งฟูใช้บัตร Osaka Amazing Pass นั่งรถไฟสายเขียว Chuo Line มาลงยังสถานี Tanimachiyonchome station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1.4 กิโลเมตร ส่วนตัวคิดว่าการลงสถานีไหนก็ไม่ต่างกันมากนัก
สถานีที่ฟูลงนั้นจะต้องเดินผ่านสวนสาธารณะที่อยู่รอบปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ก็เหมือนว่าเป็นการเพลิดเพลินชมบรรยากาศของสวนที่น่ารักและแสนโรแมนติก
พอเดินข้ามถนนมาก็เริ่มเห็นกำแพงรอบปราสาทโอซาก้าแล้วค่ะ มันช่างใหญ่โตแข็งแกร่งเสียจริง ๆ
แหม ๆ ข้างในของบริเวณปราสาทช่างกว้างจริง ๆ นะคะ เดินเข้ามาก็ยังไม่เห็นตัวปราสาทเลย
นี่แล้วเห็นปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) อยู่ไกล ๆ แล้วค่ะ
ใบบริเวณปราสาทนี้ก็มีร้านค้า ร้านอาหารด้วยนะคะ
แล้วเราก็เห็นปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) กันแล้วค่ะ ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างในปี 1583 ซึ่งมีอยู่ 8 ชั้น เป็นส่วนพื้นดิน 5 ชั้น และใต้ดินอีก 3 ชั้นค่ะ
ซึ่งในปราสาทโอซาก้านั้นจะมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า จะจัดแสดงประวัติของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บุคคลสำคัญที่มีบทบาทต่อโอซาก้าและประเทศญี่ปุ่น โดยมีค่าเข้าชม 600 เยน แต่ถ้ามี Osaka Amazing Pass ก็จะไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ โดยภายในนั้นไม่สามารถถ่ายรูปได้ แต่ฟูสามารถบอกได้ว่าในแต่ละชั้นนั้นจะเป็นเรื่องราวของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ รวมถึงวัฒนธรรม ประวัติของโอซาก้าแห่งนี้ เมื่อฟูเดินไปชั้นบนสุดสามารถมองเห็นวิวรอบปราสาทโอซาก้าที่เต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 300 ต้น พลางคิดว่าหากมาในช่วงซากุระเบ่งบานนั้นจะงดงามและโรแมนติกขนาดไหน
หลังจากชมปราสาทโอซาก้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟูจะพาไปกันต่อที่ วัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟสายสีม่วง Tanimachi Line จากสถานี Tanimachiyonchome station ไปลงสถานี Shitennoji-mae Yuhigaoka Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
เอ๊ะ! นี่ไม่เหมือนทางเข้าวัดเลย เหมือนสุสานมากกว่า และมันก็คือสุสานจริง ๆ โดยหากลงมาสถานีนี้ตาม GPS นั้น มันจะพาเราเดินผ่านสุสานนี้ อัยย่ะ น่ากลัวจริง ๆ
นี่เดินเข้าสู่ด้านข้างของวัดแล้ว
และในที่สุดฟูก็มาถึงด้านหน้าของวัดแล้วค่ะ เดินเข้าวัดไปกันดีกว่า หากไม่มี Osaka Amazing Pass จะเสียค่าเข้าชม 300 เยนนะคะ
วัดนี้มีความสำคัญอย่างไร : เนื่องจากว่าวัดชิเทนโนจิ (shitennoji Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นกว่า 1400 ปีและนับว่าเป็นวัดพุทธแห่งแรกในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนการสร้างจากเจ้าชายโชโทคุที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยสร้างขึ้นในปี 593 ซึ่งยังคงความดั้งเดิมแม้ว่าเคยโดยไฟไหม้มาหลายต่อหลายครั้ง ยังมีสวนโกคุราคุ-โจ เป็นสวนดั้งเดิมของญี่ปุ่นซึ่งสามารถเข้าชมได้ในราคา 300 เยน
ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ฟูเดินออกมาจากหน้าวัดก็เห็นร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่เรียงราย
ขนมนี่น่ากินจังเลย
เอ๊ะ! มีกลิ่นอะไรหอมมาก นั่นคือ เสี่ยวหลงเปานั่นเอง ฟูทนไม่ไหวก็ต้องแวะกินกันสักหน่อย
เสี่ยวหลงเปาของร้านนี้มีหลายรสชาติ ฟูการันตรีความอร่อยมาก เมื่อเรากัดเข้าไปมีความช่ำมากค่ะ
ไก่ทอดง่าย ๆ แต่อร่อยเวอร์ ด้วยไก่ที่คลุกเคล้าจากสูตรลับของทางร้านที่แฝงไปด้วยความเผ็ดเล็กน้อย นำไปอบก่อนที่จะเอามาทอด ทำให้เนื้อไก่มีความนิ่ม หอม อร่อยมาก
ไม่หน่ำใจกินข้าวด้วยดีกว่า คล้าย ๆ ข้าวขาหมูไข่พะโล้ในไทยเลย แต่เนื้อหมูนุ่มมาก เหมาะสำหรับคนชอบหนัง
อิ่มหน่ำสำราญมีเรี่ยวแรงแล้ว ผู้เขียนจะพาไปเดินต่อเพื่อขึ้น หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) โดยใช้เวลาไม่ไกลเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น นี่เราต้องลงลิฟต์ไปชั้นล่างก่อน เพื่อต่อแถวซื้อบัตรขึ้นไปยังชั้นบน แต่หากมีบัตร OSAKA AMAZING PASS ก็สามารถเข้าฟรีไม่ต้องเสียค่าเข้าชม 700 เยน
ระหว่างเดินทางขึ้นไปนั้น เราก็ต้องผ่านร้านค้าที่เชิญชวนให้เราต้องหยุดซื้อมากมาย
ว้าว ๆ ขึ้นลิฟต์อีกครั้ง แต่ลิฟต์อันนั้มีความพิเศษกว่าใคร เป็นคลิปวีดีโอสั้น ๆ ของการสร้างหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ซึ่งแต่เดิมมีความสูงเพียง 64 เมตร และได้โดนทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จากนั้นจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ให้สูงกว่าเดิมถึง 103 เมตรเมื่อครั้งปี 1965 หอคอยนี้มีต้นฉบับมาจากหอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ความเจริญในเมืองโอซาก้าในสมัยนั้น
นี่ ๆ ข้างบนหอคอยนี้เราสามารถเห็นเมืองโอซาก้าได้ทุกทางเลย
ชมวิวอย่างจุใจแล้ว ระหว่างทางลงก็สามารถชมเรื่องราวของหอคอยอันนี้ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
ของฝากยอดฮิตร้านกูลิโกะ
หลังจากนั้นฟูเดินตลาด Shinsekai ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ตลาดแห่งนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย ที่มีสีสันฉูดฉาด และตกแต่งร้านอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบฉบับญี่ปุ่น
เดินสุดทางตลาดเราก็เจอทางเข้าไปยัง สวนสัตว์เทนโนจิ (Tennoji Zoo) กันแล้ว สวนแห่งนี้เปิดเมื่อปี 1915 เป็นสวนสัตว์ที่เก่าแก่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น โดยมีสัตว์ประมาณ 1500 ตัว กว่า 300 สปีชี่ บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ หากไม่มีบัตร OSAKA AMAZING PASS จะมีค่าเข้าชม 500 เยน เห็นไหมค่ะมีบัตรนี้คุ้มมากแค่ไหน
เมื่อฟูเข้าสวนสัตว์กันมาแล้วจะแบ่งเป็นโซน ๆ ต่าง ๆ แต่เป็นแบบวงกลมค่ะ สิงโตทะเลกำลังหลับเลย
ไปโซนเพื่อไปดูหมีกัน
ฟูอยากบอกว่าสัตว์ที่นี้น่ารักมาก สัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์แห่งนี้อ้วนน่ารัก ขนปุยมากทีเดียว และคึกทุกตัวด้วย ฟูเห็นสัตว์ทุกตัวเคลื่อนไหว เดินไปมาตลอดเวลา ไม่เหมือนตอนไปสวนสัตว์ที่ไทย ส่วนใหญ่แล้วจะนอนเฉย ๆ
ใครอยากชมเพนกินก็มีนะคะ
นี่สัมผัสนกอย่างใกล้ชิดเลย
มีความสุขกันแล้วไปนั่งชิงช้าสวรรค์แบบโรแมนติกดีกว่า ที่ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน Tempozan Giant Ferris Wheel โดยนั่งรถไฟมาลงสถานี Osakako Station แล้วเดินต่อ 450 เมตร เราก็เริ่มเห็นความยิ่งใหญ่ของชิงช้าสวรรค์แห่งนี้แล้ว ชิงช้าสวรรค์นี้เป็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ที่มีความสูง 112.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร อยู่บริเวณอิม่าวโอซาก้า
ขึ้นไปข้างบนดีกว่าค่ะ
เมื่อขึ้นไปข้างบนแล้วก็จะต่อคิวเพื่อขึ้นชิงช้าสวรรค์นะคะ โดยเสียค่าเข้า 800 เยน หากมีบัตร OSAKA AMAZING PASS ก็เข้าชมฟรีเลยค่ะ ฟูแนะนำให้มาช่วงกลางคืนนะคะเพราะจะได้บรรยากาศอันแสนโรแมนติก โดยที่นี้จะปิดประมาณ 4 ทุ่มเลย การขึ้นนั่งชิงช้าสวรรค์นั้นจะมีให้เลือก 2 แบบ แบบแรกนั่งไม่จำกัดเวลา แต่จะเป็นชิงช้าแบบตู้สีสันสดใสสีแดง และพื้นข้างล่างเป็นแบบทึบ และแบบที่ 2 แบบจำกัดเวลา 25 นาที หรือ 1 รอบ จะเป็นตู้แก้วใสทั้งตู้ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวได้ทุกทิศทาง ใครไม่กลัวความสูง ฟูก็แนะนำให้นั่งตู้นี้นะคะ
เห็นวิวสวยงามมากเลยค่ะ
นั่งชิงช้าสววรค์กันแล้วก็แวะกินข้าวสักหน่อย ร้านนี้อยู่ในห้างสรรพสินค้าเทมโพซานที่อยู่ติดกัน
ว้าว ๆ น่ากินมาก ๆ ค่ะ
ออกจากห้างแล้วก็จะเจอพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไคยูคัง (Osaka Aquariam Kaiyukan) ใครต้องการดูสัตว์น้ำต่อก็เข้าชมได้เลย แต่บัตร OSAKA AMAZING PASS ไม่ครอบคลุมนะคะ
เป็นอย่างไรบ้านเที่ยวโอซาก้าเต็ม ๆ ในวันเดียว หากยังไม่จุใจก็สามารถใช้บัตร OSAKA AMAZING PASS นั่งรถไฟใต้ดินไปช้อปปิ้งต่อที่ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori) ได้เลยนะคะ สามารถดูคลิปรีวิวโอซาก้าเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองงบ 3 หมื่น 6 เมืองใน 8 วันคลิ๊กที่นี่
รีวิวเที่ยวเกียวโต เมืองมรดกโลกญี่ปุ่นคลิ๊กที่นี่
รีวิวเที่ยวนาระ ดูกวางที่น่ารักคลิ๊กที่นี่
เที่ยววะกะยาม่า ธรรมชาติงดงามในญี่ปุ่นคลิ๊กที่นี่
รีวิวเที่ยวทตโตริ เมืองทะเลทรายหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นคลิ๊กที่นี่
เที่ยวฮิเมจิ ครึ่งวันก็เที่ยวได้คลิ๊กที่นี่
เครดิตรูปภาพ : ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน
28 พ.ย. 2565
23 มิ.ย. 2563