รีวิวเที่ยวนาระ : เที่ยวครึ่งวันกับเมืองเล็กๆที่น่ารัก

Last updated: 8 มิ.ย. 2563 | 6324 จำนวนผู้เข้าชม |

รีวิวเที่ยวนาระ : เที่ยวครึ่งวันกับเมืองเล็กๆที่น่ารัก

หากนั่งรถไฟมาจากเกียวโต สามารถนั่งรถไฟ JR Nara Line มาลงสถานี Nara Station ได้เลยค่ะ ซึ่งใช้เวลา 45 นาที แต่หากนั่งจากโอซาก้า สามารถนั่งจากสถานี Osaka Station โดยนั่งสาย JR Osaka Loop Line ต่อด้วย JR Yamatoji Line มาลงสถานี Nara Station (810 เยน) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 55 นาที

นี่เราก็ถึงสถานี Nara Station กันแล้วค่ะ

จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji) นั่นเอง ซึ่งสามารถเดินจากสถานีเพียง 1.4 กม.เท่านั้นค่ะ ซึ่งใช้เวลาเดินจากสถานีน่าจะประมาณ 20 นาทีค่ะ

บรรยากาศของเมืองนารานะคะ

นี่เราก็เดินขึ้นบันไดกัน เพื่อไปยังวัดโคฟุคุจิ (Kofukuji) กันค่ะ

วัดโคฟุคุจิ (Kofukuji) เป็นวัดพระพุทธศาสนาที่มีความเก่าแก่มากค่ะกว่า 1,300 ปีมาแล้ว ถูกสร้างในค.ศ. 669 ซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลขุนนางที่เคยมีอำนาจยิ่งใหญ่ในยุคเฮอัน ที่ชื่อว่า “ตระกูลฟุจิวะระ” สาเหตุที่สร้างวัดแห่งนี้เนื่องจากภรรยาของฟุจิวาระ โนะ คามาทาริ ต้องการให้สามีหายป่วยจริงขอพรแล้วสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา วัดแห่งนี้ยังได้รับการจดทะเบียนด้านวัฒนธรรมที่มีชื่อว่า “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาราโบราณ” ให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วยค่ะ

หากชมแค่พื้นที่โดรอบจะเข้าชมฟรีค่ะ แต่หากชม National Treasure Museum มีค่าเข้าชม 600 เยน Eastern Golden Hall มีค่าเข้าชม 300 เยน แต่ถ้าชมทั้งสองเลยมีบัตรเพียง 800 เยนเท่านั้นค่ะ
วัดแห่งนี้เราจะเห็นร่องรอยการรื้อและสร้างใหม่ของวัดแห่งนี้ ซึ่งเคยย้ายไปสร้างที่ฟูจิวาระเคียวค่ะ ต่อมาจึงถูกนำกลับมาที่ตรงอีกครั้งในปีค.ศ. 710 ตัวอาคารในวัดแห่งนี้ที่เราเห็นมีจำนวนน้อยเหลือไม่กี่หลังแล้วค่ะ ซึ่งสมัยก่อนนะคะอาคารที่วัดแห่งนี้มีมากถึง 150 หลังเลยทีเดียวค่ะ ก่อนที่จะถูกทำลายลงไปด้วยเหตุการณืไฟไหม้และสงครามในสมัยนั้นค่ะ

หลังจากที่เรามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดโคฟุคุจิ เราจะไปกันต่อที่ สวนนารา (Nara park) ค่ะ ซึ่งอยู่ใกล้วัดนี่เองค่ะ

สวนนารา (Nara park) สวนแห่งนี้ไม่ใช่เพียงสวนธรรมดาค่ะ แต่เป็นสวนที่มีกวางเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ซึ่งมีจำนวนถึง 1,200 ตัวเลยทีเดียวค่ะ สวนแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังมากๆในเมืองนาราเลยทีเดียวค่ะ เนื่องจากนารามีกวางมากมายขนาดนี้ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนาราเลยค่ะ

ถ่ายรูปกับกวางสักหน่อย น่ารักไหมคะ

ที่เราจะเห็นระหว่างทางนะคะ ไม่ว่าเราจะไปไหนก็จะเห็นกวางเต็มไปหมดเลย

กวางเมืองนาราชอบขนมเซนเบ้มากค่ะ ก่อนที่ฟูจะให้ขนมนะคะ กวางจะโค้งคำนับฟู 3 ที ถ้าเรายังไม่ให้ขนมสักที มีการมาดึงเสื้อและดันก้มฟูด้วยค่ะ

เพลิดเพลินถ่ายรูปกับกวางจนพอใจแล้ว ฟูจะพาไปต่อที่ วัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) กันค่ะ ซึ่งเดินจากสวนนาราอีก 350 เมตรเท่านั้นค่ะ

เรามาดูแผนที่กันก่อนดีกว่า

วัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) เป็นวัดพระพุทธศาสนาที่มีความเก่าแก่และสำคัญในประเทศญี่ปุ่น โดยมีความหมายว่า วัดใหญ่แห่งทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในค.ศ. 752 โดยมีโบราณสถานที่สำคัญคือ วิหารไม้หลังใหญ่ ไดบุตสึเดน เป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อโต (ไดบุตสึ) ที่สร้างจากไม้ ด้วยความสูง 157 ฟุต ความยาว 187 ฟุต จึงนับว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ

ซื้อตั๋วบัตรกันก่อนนะคะ โดยค่าเข้าวิหารหลวงพ่อโต 500 เยน และค่าเข้าพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ 500 เยน หรือตั๋วรวม 800 เยนค่ะ

บริเวณนี้คือหน้าวัดโทไดจิค่ะ สวยไหมคะ

วัดแห่งนี้ก็สร้างจากไม้ ด้วยความสูง 157 ฟุต ความยาว 187 ฟุต จึงนับว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนะคะ

แวะไหว้พระที่วัดโทไดจิกันแล้ว จุดหมายสุดท้ายก่อนกลับก็ไปที่ ศาลเจ้าคาสุกะ(Kasuga-taisha) ต่อกันเลยค่ะ ซึ่งสามารถเดินต่อไปอีกประมาณ 1.3 กม.ค่ะ

นี้คือทางเดินระหว่างทางไปยังศาลเจ้าคาสุกะนะคะ เพลิดเพลินดูกวางไปด้วยค่ะ ถือว่าเดินชมเมืองนาราไปด้วยเลย

เราก็มาถึง ศาลเจ้าคาสุกะ(Kasuga-taisha) กันแล้วนะคะ

ว้าวๆ เห็นทางเดินประดับประดาด้วยตะเกียงเยอะขนาดนี้ มองดูเพลิดเพลินสวยงามมากค่ะ คงหนีไม่พ้นบริเวณศาลเจ้าคาสุกะ กันแล้ว

ตะเกียงที่ประดับประดาเรียงรายทั่วบริเวณทางเดินและพื้นที่ศาลเจ้านั้นเป็นจุดไฮไลท์สำคัญของศาลเจ้าคาสุกะ ซึ่งศาลเจ้าคาสุกะ เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังมากในเมืองนาราเลยทีเดียวค่ะ ถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยที่นารายังเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นค่ะ เพื่อบูชาเทพเจ้าผู้ปกป้องเมือง เดิมทีเคยเป็นของตระกูลฟุจิวาระ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลในสมัยนั้นค่ะ การตกแต่งและสถาปัตยกรรมของที่นี้จะสไตล์นาราดั้งเดิมที่สะท้อนความงดงามในสมัยนั้นค่ะ