COVID พิสูจน์ “ทรัมป์” คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้อีกหรือไม่

COVID พิสูจน์ “ทรัมป์” คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้อีกหรือไม่

          นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐก็ก้าวสู่ความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการยิงขีปนาวุธของเกาหลี ข้อตกลงการค้ากับจีนและนานาประเทศ หรือแม้แต่ความท้าทายที่ใหญ่ขึ้นของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มใกล้เข้ามาในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ บทพิสูจน์ของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นตัวแปรที่สำคัญว่าสมควรแล้วหรือไม่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังคงได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย

      ในขณะที่ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีศึกการเลือกผู้แทนของพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกัน หรือที่เรียกว่าการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Election) เพื่อสรรหาตัวแทนผู้ลงคะแนน (Delegates) เพื่อเลือกตัวแทนพรรคในวันประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรค (Party National Convention) ทางด้านพรรครีพับลิกัน ผู้ชนะต้องได้รับคะแนนเสียงทั้งหมด 1,276 เสียง จากทั้งหมด 2,550 เสียง โดยมีผู้สมัครที่ต้องจับตามองอยู่ 2 คน คนแรกก็คือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Donald Trump และคนที่สองคือ Bill Weld อดีตนายกรัฐมนตรีรัฐแมสซาซูเส็ตส์ ช่วงปี 1991

       ด้านพรรคเดโมแครตนั้น ตรงกันข้ามยังไม่มีผู้สมัครที่สามารถบอกได้แน่นอนว่า คู่แข่งศึกการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นใคร โดยมีผู้สมัครที่เป็นตัวเต็งจำนวนมาก เช่น Bernie Sanders และ Elizabeth Warren ที่ค่อนข้างเป็นฝั่งซ้ายแบบสุดโต่ง (Left Wing) หรือ Joe Biden ที่เป็นฝั่งซ้ายแบบปานกลาง (Moderate) รวมทั้ง Michael Bloomberg นักธุรกิจชื่อดังที่เป็นม้ามืดซึ่งมีนโยบายไม่รุนแรงเท่าผู้สมัครคนอื่น

       อย่างไรก็ตาม โดยรวมชาวอเมริกายังไม่มั่นใจต่อมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ส่งผลต่อคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจากผลสำรวจความนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับคู่แข่งจากเดโมแครต พบว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แพ้ทุกผลสำรวจ ยกเว้นผลสำรวจ fox ที่เสมอกับ Joe Biden ของพรรคเดโมแครต

      ทั้งนี้ “ทรัมป์” จึงอาจหันไปใช้เครื่องมืออื่นๆ เพื่อเรียกคะแนนเสียงความนิยมของตัวเองกลับมา ซึ่งอาจหันไปใช้สงครามการค้ากับจีนก็เป็นไปได้ จึงยังคงต้องติดตามต่อไป