Last updated: 15 ก.ค. 2563 | 1877 จำนวนผู้เข้าชม |
สถานที่ท่องเที่ยวเกาะเชจู ในเกาหลี
เกาะเชจูเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทสเกาหลีใต้ ได้รับขนานนามว่า “ฮาวายแห่งเอเชีย” เนื่องจะมีแหล่งมรดกโลกหลายแห่ง รวมถึงมีชายหาด ภูเขา ถ้ำ น้ำตก ครบครันและสวยงามสมบูรณ์ตามธรรมชาติโดยสามารถเดินทางด้วยการนั่งสายการบินภายในประเทศมาลงสนามบินนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) หรือนั่งเรือเฟอรรี่ Hanil Express จากท่าเรือ Yeosu Port Terminal จากเมืองยอซู ไปลง Jeju Ferry Passenger Terminal สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเกาะเชจูมีดังนี้
อุทยานแห่งชาติฮาลลาซาน (Hallasan National Park)
อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า ภูเขายองจูซาน (Mt. Yeongjusan) ซึ่งแปลว่า “ภูเขาที่สูงเทียบเท่าจักรวาล” ซึ่งมีความสูงถึง 1,950 เมตร เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเกาะเชจู และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage) ในปีค.ศ. 2007
เนื่องจากอุทยานแห่งนี้ก่อกำเนิดมาจากภูเขาไฟ ทำให้เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชพรรณและสัตว์หลากหลายชนิด อีกทั้งยังคงมีความสวยงามและมนต์เสน่ห์ที่แตกต่างกันตามแต่ละฤดูกาล สำหรับการเดินทางมายังอุทยานฮัลลาซานนั้น จะแบ่งการเดินทางไปยัง 4 จุด สามารถนั่งรถบัสจาก Jeju Inter-city Bus Terminal โดยนั่งรถบัสสาย 1100 ไปยัง Eorimok หรือ Yeongsil ส่วนจุดอื่นนั้นสามารถนั่งรถบัสที่จะไป Seogwipo City ไปยังป้าย Donnaeko หรือป้าย Seongpanak หรือนั่งรถบัสสาย 1 ลงป้าย City Hall เพื่อไปวัด Gwaneumsa หรือหากมาจากทางฝั่ง Seogwipo Inter city Bus Terminal สามารถขึ้นนั่งรถบัสสาย 781,781-1 ไปลงป้าย Seongpanak
โขดหินยงดูอัม (Yongduam Rock)
โขดหินยงดูอัม หรือโขดหินมังกร เป็นโขดหินที่เกิดจากลาวารเอนจัดจากการระเบิดภูเขาไฟเมื่อราวสองล้านปีที่แล้ว ซึ่งพุ่งออกมากระทบทะเลที่เย็นจัดและเกิดการแข็งตัวทันที โขดหินนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายมังกร จึงได้รับการเรียกชื่อว่า โขดหินมังกร ซึ่งตามตำนานเคยบอกว่ามีมังกรที่อาศัยอยู่ในวังมังกรใต้ทะเล พยายามจะทะยานขึ้นสู่สวรรค์ จึงถูกสาปให้กลายเป็นหินนั่นเอง จึงนับว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวนั่นเอง สำหรับการเดินทางมายังโขดหินยงดุอัมนั้น สามารถนั่งรถบัสสายที่จะไป Jeju-si Jungang-ro จาก Jeju Intercity Bus Terminal ไปลงป้าย Yongmun Rotary
หาดควักจิ (Gwakji Beach)
เป็นหาดที่มีความสวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมากในเกาะเชจู ด้วยมีหาดทรายที่ขาวละเอียด และน้ำทะเลใสที่สะท้อนจากฟ้าให้เห็นเป็นสีเขียวมรกต ยังลานหินภูเขาไฟสีดำ ซึ่งเป็นมุมสวยๆเหมาะกับถ่ายรูปทีเดียวค่ะ สำหรับการเดินทางมายังหาดควักจิ สามารถนั่งรถสาย 702 (Seoiliju) จาก Jeju Intercity Bus Terminal ลงป้าย Gwakji Credit Union
หาดฮยองแจ และหาดกึมนึง (Hyeopjae Beach & Geumneung Beach)
สองหาดแห่งนี้มีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายกัน และอยู่ใกล้ๆกัน แต่ต่างกันที่หาดกึมนึงมีผิวทรายที่ขาวสะอาดและละเอียดกว่า ส่วนหาดฮยอนแจจะมีกองหินภูเขาไฟสีดำขนาดใหญ่ยืนลงไปในทะเล และมองมองออกไปกลางทะเลจะมีเกาะ Biyangdo สำหรับการเดินทางมายังหาดฮยองแจสามารถนั่งรถสาย 702 (Seoilju) จาก Jeju Intercity Bus Terminal ลงป้าย Hyeopjae Beach ส่วนหาดกึมนึงลงป้าย Geumneung Eutteumwon Beach
เมืองปราสาทแก้ว (Jeju Glass Castle)
เมืองปราสาทแก้วเมืองเชจู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งแก้ว ซึ่งจะมีเครื่องแก้วมาประดิษฐ์เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ มีการจัดแสดงเครื่องแก้วกว่า 6 ธีม รวมประติมากรรมกว่า 250 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 2 โซนใหญ่นั่นคือ โซนในร่มและโซนกลางแจ้ง ซึ่งโซนในร่มจะมีเครื่องแก้วที่สวยงามอลังการ ส่วนโซนกลางแจ้งจะมีจัดเป็นสวนเขาวงกต มี Glass House ภานในจะมีสวนดอกไม้ สะพานแก้ว ต้นไม้ที่ล้วนทำมาจากแก้ว ซึ่งล้วนเป็นงานศิลปะที่สวยงามมากเลยทีเดียวค่ะ สำหรับการเดินทางมายังเมืองปราสาทแก้วเมืองเชจูนั้น สามารถนั่งรถสาย Halim Joong-gansan จาก Jeju Intercity Bus Terminal ลงป้าย Halim High School แล้วนั่งสาย 967 (Hallim-Gosan) ลงป้าย Glass Castle
นั่งเรือดำน้ำ (Seogwipo Submarine)
เป็นเรือดำน้ำโดยสารที่ดำลึกที่สุดในโลกจาก Guinness Book และเป็นเรือดำน้ำแห่งแรกในเอเชียและแห่งที่ 3 ของโลกที่เปิดขึ้นในปีค.ศ. 1988 โดยเป็นทัวร์ใต้น้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลี ซึ่งเราจะสามารถชมฝูงปลาต่างๆ และวิวใต้ท้องทะเลโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นั่นเองค่ะ สำหรับการเดินทางสามารถนั่งรถบัสสาย 600 จาก Jeju Intercity Bus Terminal ไปลงป้าย Seogwipo Wharf
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50000 วอน วัยรุ่น 40000 วอน และเด็ก 30000 วอน
พิพิธภัณฑ์เชื่อหรือไม่ (Ripley’s Believe It or Not)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวต่างๆที่น่าพิศวงและของที่หายากจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีทั้งหมด 2 ชั้น ซึ่งชั้นแรกจะประกอบไปด้วย 7 โซน ที่ประกอบด้วยข้าวของและเรื่องราวต่างๆ เช่น หุ่นจำลองชายที่สูงที่สุดในโลก ชายจมูกทองคำ รถที่เคลือบด้วยเหรียญทอง 24K มนุษย์ตาโปนที่หมุนได้ 180 องศา และความเชื่อลี้ลับของชนชาติต่างๆ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งของที่แปลกพิศวงแต่จริง สำหรับชั้นที่ 2 นั้นจะเป็นโซนสยองขวัญ โดยการจำลองคุกที่ใช้คุมขังนักโทษ และการทรมานในแบบต่างๆ รวมถึงงานศิลปะที่ทำให้คุณประทับใจ สนุกสนาน ตื่นเต้นกันทีเดียวค่ะ โดยสามารถนั่งรถบัสสาย 600 จาก Jeju Intercity Bus Terminal ไปลงป้าย Jungmun Resort แล้วเดินต่ออีก 800 เมตร
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 10000 วอน วัยรุ่น 9000 วอน เด็ก 8000 วอน
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-19.00 น.
พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อค (O’Sulloc Green Tea Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดครั้งแรกเมือ่เดือนกันยายน ค.ศ. 2001 เป็นของบริษัท Amore Pacific ซึ่งเป็นบริเวณทุ่งชาเขียวยาวสุดลู่หาลู่ตาทอดยาวอยู่ทางตอนใต้ของเขาฮาลลาซาน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดชาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี โดยมีโครงสร้างของสถาปัตยกรรมพิพิธภัณฑ์คล้ายถ้วยชา วางอยู่ตรงกลางทุ่มชาเขียวโอบล้อมไว้ สถานที่แห่งนี้จัดแสดงประวัติศาตร์ในการผลิตใบชา กรรมวิธีการผลิต อุปกรณ์สำหรับการชงชาที่ถูกต้อง นับว่าเป็นที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยค่ะได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งการพักผ่อนธรรมชาติพลาดไม่ได้เลย สำหรับการเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์โอซุลล็อคนั้นสามารถนั่งรถสาย Halim Joonggan-san จาก Jeju Intercity Bus Terminal ลงป้าย Hallim High School แล้วนั่งสาย Hallim-Gosan, 967 ลงป้าย Osulloc
น้ำตกชอนเจยอนและสะพานเจ็ดนางฟ้า (Cheonjeyeon Waterfall)
น้ำตกชอนเจยอน มีความหมายว่า บ่อน้ำของจักรพรรดิแห่งสวรรค์ ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามด้วยวามสูง 22 เมตร ความกว้างประมาณ 12 เมตร และลึกถึง 20 เมตร
ระหว่างเดินชมน้ำตกจะผ่านสะพานเดนางฟ้า ซึ่งมีเรื่องราวมาว่าจะมีนางฟ้าทั้ง 7 องค์ลงตามบันไดก้อนเมฆจากสวรรค์เพื่อมาอาบน้ำแห่งนี้ จึงเชื่อว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการเดินทางมายังน้ำตกชอนเจยอนนั้นสามารถนั่งรถสาย 600 จากสนามบินนานาชาติเชจู ไปลงป้าย Jungman ซึ่งน้ำตกจะอยู่ข้างๆทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์
ค่าเข้าชม: 2500 วอน
เวลาเปิด-ปิด : เดือนมี.ค.-ต.ค. 8.00-18.30 น. และพ.ย.-ก.พ. 9.00-17.30 น.
โขดหินโอดอลแกและหน้าผาแดจังกึม (Oedolgae Rock)
โขดหินนี้อยู่ทางตะวันตกของท่าเรือซกวิโพประมาณ 1 กม. โดยมีตำนานว่าเกิดจากภรรยาของชาวเรือสาบสูญไปในทะเล โดยโดดน้ำตายตามสามีด้วยความเสียใจ พอดีกับร่างของสามีถูกน้ำซัดมาติดชายฝั่งพอดี ณ จุดเดียวกัน จึงเกิดเป็นหินแท่งใหญ่ขึ้น โขดหินนี้สูงถึง 20 เมตร เลยพ้นหน้าผาที่อยู่ใกล้เคียง เป็นหน้าผาที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ซีรี่ส์ดังแดจังกึม ตอนที่นางเอกถูกเนรเทศมายังเกาะเชจู แล้วาโดดหน้าผา สำหรับการเดินทางมายังโขดหินดอลแกและหน้าผาแดจังึมนั้นสามารถนั่งรถบัสสายที่ไป Seogwipo จาก Jeju Intercity Bus Terminal ลงป้าย Dongmun Rotary แล้วเดินตามถนน Jungjeong-ro ไปทางตะวันตก 150 เมตร แล้วต่อสาย 8 ไปลงป้าย Oedolgae Rock
15 ส.ค. 2562
30 ก.ย. 2562
3 ต.ค. 2562
10 ก.ย. 2562