10 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดในโตเกียว

10 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดในโตเกียว

            ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใครต่อใครนิยมไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย เนื่องจากไม่ต้องทำวีซ่าให้วุ่นวาย และยังเป็นประเทศหนึ่งที่แทบจะมีครบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมีธรรมชาติที่สวยงาม เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การเดินทางที่สะดวกสบาย การมีวินัยความปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร แหล่งช้อปปิ้งมากมาย อาหารการกินที่แสนอร่อย อีกทั้งยังใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก ทั้งนี้โตเกียวเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ไม่แพ้เมืองไหนๆ  โดยสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทาง คือ

วัดอะชะกุสะ (Senso-ji Temple)

                หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเซ็นโชจิ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านอะชะกุสะ เป็นวัดที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในโตเกียว โดยมีประตูสายฟ้าคามินาริม่อน เป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ซึ่งมีโคมแดงขนาดใหญ่ และมีเทพเจ้าแห่งสายฟ้า อยู่ทางด้านซ้าย เทพเจ้าแห่งสายลม อยู่ทางด้านขวา ซึ่งในวัดแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับถนนช้อปปิ้งนากามิเชะ ที่มีร้านขนม ร้านอาหารมากมายเรียงรายตั้งกันอยู่ โดยคนส่วนใหญ่ที่มีวัดนี้จะไปไหว้พระโพธิ์สัตว์กวนอิม ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ตามคำสมปรารถนา การเดินทางสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza, Asakusa

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

                โตเกียวสกายทรี เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก อยู่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง 643 เมตร เป็นหอคอยที่สามารถเข้าไปชมวิวได้อย่างสวยงาม โดยสามารถชมวิวได้ที่  Tembo Galleria และ Tembo Deck สามารถเห็นวิวเมืองโตเกียวได้แทบทั้งเมือง และในบางครั้งอาจเห็นได้ไกลถึงภูเขาฟูจิเลยทีเดียว การเดินทางสามารถมารถไฟใต้ดินสาย Asakussa หรือ Hanzomon ลงสถานี Oshiage

สวนอุเอโนะ (Ueno Park)

                สวนอุเอโนะ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเดินทางมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะสามารถเห็นต้นซากุระออกดอกอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบมาชมซากุระในสถานที่แห่งนี้ นอกจากต้นซากุระแล้วยังมีต้นไม้หลากหลายพันธุ์มากมายกว่า 8,800 ต้น และมีอนุสาวรีย์ซามูไรคนสุดท้าย (The last Samurai) ผู้มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น การเดินทางมายังสวนอุเอโนะนั้นสามารถนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote ลงสถานี Ueno

พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)

                พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านมารุโนอุจิ (Marunouchi) เคยเป็นที่อาศัยของโชกุนโทะกุงะวะ ซึ่งสามารถเข้าชมพระราชวังนี้ได้ปีละ 2 ครั้ง นั่นคือ 2 มกราคม และ 23 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิ แต่ก็ยังสามารถเข้าชมได้บางส่วนในช่วงเวลาอื่นๆได้เช่นกัน การเข้าชมพระราชวังนั้นจำเป็นต้องจองล่วงหน้า (ดูวิธีการจองล่วนหน้าผ่านออนไลน์ คลิก) เดินทางสามารถนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote ลงสถานี Tokyo ไปยังทางออก Marunouchi



ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Market)

                ตลาดปลาซึกิจิ เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยยุคเอโดะ โดยตลาดปลาแห่งนี้จะมีปลาที่สดใหม่ และจะมีการประมูลปลาทูน่า หรือปลามากูโร่ ในช่วงเช้าของทุกๆวัน ซึ่งสามารถเข้าชมการประมูลปลาได้ 2 รอบคือ ช่วง 05.25-05.50 น. และช่วง 0.50-06.15 น. สามารถลงทะเบียนเข้าชมประมูลปลาได้ในช่วงตีห้า สำหรับการเข้าชมทั่วไปจะเปิดในช่วงเวลา 9.00 น. นอกจากนี้ยังมีร้านซูซิดังๆมากมายในตลาดแห่งนี้ การเดินทางสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Oedo ลงสถานี Tsukijishjo ทางออก A1

แหล่งชอปปิ้งย่านชิบูย่า

                เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ที่ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยไหน หรือนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาช้อปปิ้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้จะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ห้างโตคิว (Tokyu), ห้าง Shibuya 109, Shibuya Mark City, Shibuya Hikaria, Tokyu Hands ซึ่งนับว่ามีสินค้ามากมาย และเป็นแหล่งแฟชั่นก็ว่าได้เลยทีเดียว การเดินทางสามารถนั่งรถไฟ JR ชิบูย่าได้เลยค่ะ

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)

                เป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเครื่องเล่นมากมายที่ค่อนข้างหวาดเสียวเลยทีเดียว ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้แบ่งเป็น 7 โซน และมีขบวนพาเหรดวันละ 2 รอบ คือ รอบกลางวัน และรอบกลางคืนก่อนสวนสนุกปิด ในสวนสนุกแห่งนี้จะมีรูปปั้นวอลต์ ดิสนีย์ เป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรดิสนีย์ อีกด้วย การเดินทางสามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟ JR maihama

โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

                โตเกียวทาวเวอร์ มีต้นแบบก่อสร้างมาจากหอไอเฟล แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีความสูงกว่า 333 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมหอคอยโตเกียวได้ได้บริเวณ 2 ระดับ คือ Main Observatory และ Special Observatory  สามารถมองเห็นเมืองโตเกียว โดยบริเวณ Main Observatory จะมีศาลเจ้าชินโต สามารถอธิษฐานขอพรด้วยแผ่นไม้เพื่อให้สมปรารถนาด้านทางการเรียน การเดินทางสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Oedo ลงสถานี Akabanebashi หรือ รถไฟ JR สถานี Hamamatsucho

สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)

                สะพานสายรุ้งเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างโอไดบะกับเมืองโตเกียว หากมองสะพานสายรุ้งในช่วงกลางคืนจากฝั่งโอไดบะ จะสามารถเห็นความงดงามของแสงไฟของตึกต่างๆทั่วทั้งโตเกียว และมองเห็นหอคอยโตเกียว อยุูเบื้องหลังของสะพาน

สวนคิตะโนะมารุ (Kitanomaru Garden)

                สวนคิตะโนะมารุเป็นสถานที่มีต้นซากุระ โดยล้อมรอบด้วยคลองจิโดริกะฟุจิ หากในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเห็นต้นซากุระที่บานสะพรั่งสวยงามมากมาย ประกอบกับแสงไฟที่ประดับประดาในต้นซากุระ ทำให้ต้นซากุระมีความสวยงามเข้าไปอีก การเดินทางมายังสวนคิตะโนะสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku ลงสถานี Kudanshita หรือสายรถไฟ JR ลงสถานี Tokyo