เคล็บลับเที่ยวสวิส-อิตาลี 11 วันด้วยตัวเองกับงบประมาณ 5 หมื่น

Last updated: 28 พ.ย. 2565 | 53961 จำนวนผู้เข้าชม |

เที่ยวสวิส-อิตาลี 11 วันด้วยตัวเองกับงบประมาณ 5 หมื่น

ฟูเชื่อค่ะทุกๆคนมีประเทศในฝัน และได้วาดหวังว่าสักวันจะได้ไปยังประเทศที่สวยงามและฝันใฝ่ไว้ แต่พอเปิดบัญชีตัวเองทีไร อุ้ย? ดูรูปไปก่อนล่ะกัน555++ ไม่มีเงินเพียงพอจะไปที่นั่น

คนส่วนใหญ่คิดว่าไปเที่ยวประเทศไกล ๆ โดยเฉพาะยุโรปจะต้องเสียเงินเป็นแสน ๆ แต่ถ้าคุณวางแผนดีดีแล้วล่ะก็ คุณจะได้ไปเที่ยวยุโรปในงบประมาณจำกัดที่คุณพอใจ และได้ท่องเที่ยวหลายสถานที่ด้วยค่ะ มากกว่าที่ไปกับกรุ๊ปทัวร์เสียอีก แถมมีอิสระแบบสุด ๆ เลย วันนี้ฟูจะมาเปิดแผนขั้นแรกก่อนว่า ฟูจองแบบไหนแล้วได้งบเที่ยวสุดประหยัด แบบไม่ต้องไปแบบทำร้ายตัวเองด้วย ถือว่าไปแบบสบาย ๆ ชิว ๆ กันเลย

1. จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน หรือจองช่วงสายการบินนั้นมีโปรโมชั่น

การเลือกจุดลงของสนามบินมีผลต่อราคาเหมือนกันค่ะ ราคาจะค่อนข้างเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว อย่าลืมเสียว่าไม่ว่าเราจะไปไหนของยุโรป มันค่อนข้างสะดวกสบายมากค่ะ เพราะมีรถไฟเชื่อมต่อไปยังทุกๆเมือง และทุก ๆ ประเทศเลยทีเดียว ฉะนั้น การเลือกจุดลงสนามบินก็สำคัญ สมมุติ เราจะไปสวิสเซอร์แลนด์ เราก็จะต้องศึกษาว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างที่เราอยากไป และสวิตเซอร์แลนด์มีสนามบินที่เมืองไหนบ้าง เช่น ซูริค(Zurich) เจนีวา(Geneva) เป็นต้น และเราสามารถสำรวจเมืองหรือประเทศที่อยู่ใกล้ๆอย่างเช่นสวิตเซอร์แลนด์มีประเทศที่อยู่ติด ๆ กันคือ อิตาลี(Italy) เยอรมนี(Germany) และฝรั่งเศส(France) ซึ่งการเลือกจุดลงของสนามบินนั้นถ้าเราจะไปสวิตเซอร์แลนด์ การที่เราจะลงสนามบินที่ซูริค(Zurich) นั้นอาจทำให้ตั๋วเครื่องบินพุ่งแรงจนหูฉีกได้ค่า เราอาจจะเปลี่ยนมาลงที่มิลาน(milan) ประเทศอิตาลี(Italy) ก็ทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินของเราถูกลงเยอะค่า แต่อย่าลืมว่า เราต้องคำนวณเวลา และค่าใช้จ่ายรถไฟที่เดินทางต่อไปให้ดีด้วยนะคะ

ซึ่งตรงนี้ฟูได้ค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 17,000 บาทของสายการบิน Italy airline ซึ่งเป็นสายการบินใหม่ ตอนนี้ก็ลุ้นมาก เพราะยังไม่มีรีวิวอะไรเลยค่ะ แต่ที่เสี่ยงจองเพราะสายการบินได้โดย take over จากกาต้า ทำให้พอเชื่อใจอยู่บ้าง อีกอย่างบินตรงด้วย ไม่ต้องไปหยุดพักที่ไหน ซึ่งบินตรงไปกลับที่กรุงเทพ-มิลานค่ะ

2.       ศึกษาเส้นทางรถไฟในสถานที่เราไป

สำหรับการเดินทางโดยรถไฟในยุโรปนั้น หากมีการท่องเที่ยวตั้งแต่ 2 ประเทศขึ้นไปนั้นสามารถใช้ Eurail Passes (Eurail Passes คืออะไร คลิ๊ก) โดยระบุประเทศที่ต้องการไปนั้นเอง แต่สำหรับฟูได้ไปแค่ 2 ประเทศนั้น นั่นคือ สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ซึ่งจุดมุ่งหมายของฟูอยากไปขึ้นเขาที่สวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง เค้าบอกกันมากว่า mountain ที่สวิสสวยมั๊กมากๆๆ อย่างกับหลุดจากเทพนิยาย..55++ ทำให้การใช้ Eurail Passes อาจจะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายมากนัก เพราะการใช้ Eurail Passes ในการขึ้น mountain ที่สวิสนั่นส่วนลดน้อยมาก และมีแผนอยากไปนั่งรถไฟสายโรแมนติก Berninal Express (Berninal Express คืออะไร คลิ๊ก) อีกด้วย เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้ว ฟูจึงตัดสินใจใช้ swiss pass ดีกว่าคุ้มกว่ากันเยอะ (swiss pass คืออะไร คลิ๊ก) ส่วนสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟในอิตาลีนั้น การเดินทางโดยรถไฟไปยังแต่ละเมือง ฟูจะเลือกซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้า (วิธีการจองรถไฟในอิตาลี คลิ๊ก) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ล่วงหน้า 3-4 เดือนก่อนการเดินทางเลยทีเดียว จะได้ตั๋วที่ถูกมาก แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถเลื่อนการเดินทางได้หรือต้องตรงเวลาเป๊ะๆเลย ส่วนสำหรับการเดินทางในเมืองก็ใช้รถบัส หรือรถไฟแทน

        สำหรับ swiss pass นั้นฟูซื้อ swiss pass 4 วันที่ราคาประมาณ 270 CHF หรือประมาณ 8,700 บาท

        ส่วนรถไฟระหว่างเมืองในอิตาลี(วิธีการจองรถไฟในอิตาลี คลิ๊ก) ฟูเลือกไปเมืองมิลาน(Milan) เวนิส(Venich) ฟลอเร้นท์(Florence) ปิซ่า(Pisa) ชิงเคว เทเร(Cinque Terre) และโรม (Rome) ซึ่งเจ็บตัวไปประมาณ 4,234 บาท

3. เมืองและสถานที่เราพักก็มีผลต่อราคาโรงแรม

การเลือกเข้าในแต่ละเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ หากเรามี swiss pass แล้วก็ไม่ต้องกังวล ซึ่งฟูมีแผนจะไปยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) ในเมือง Interlaken การเข้าพักที่เมืองนี้จึงดีกว่า อีกทั้งการจองโรงแรมที่เมือง Interlaken นั้นราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วฟูจะเลือกจองโรงแรมใกล้ๆบริเวณสถานีรถไฟสายหลัก ๆ เนื่องจากสะดวกต่อการเดินทาง และจะไม่ห่างจากสถานีรถไฟมากนัก เพื่อสามารถที่จะเดินเท้าได้ ส่วนสำหรับการจองโรงแรมในอิตาลีนั้น ไม่ว่าจะจองโรงแรมที่มิลาน ฟลอเร้นทซ์ หรือโรม ฟูก็ยังคงยึดหลักจองใกล้สถานีรถไฟฟ้าหลักเช่นกัน เนื่องจากฟูวางแผนการเดินทางที่ไปยังเมืองต่าง ๆ ด้วย จึงสะดวกและลดเวลาการเดินทาง (สำหรับทำเลที่พักโรงแรมในอิตาลีเขตไหนดีเขตไหนแพง คลิ๊กเลยค่ะ)

สำหรับที่พักโรงแรมในการเดินทางทริปนี้นะคะ ซึ่งนอนโรงแรมไปทั้งหมด 9 คืน เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 9,500 บาท

4. เปรียบเทียบประกันการเดินทาง

แน่นอนค่าประกันการเดินทางมันก็สำคัญน่ะ ซึ่งสามารถศึกษาและเลือกให้ตรงตามความต้องการแต่ละคนได้เลยค่ะ การทำประกันการเดินนั้นมีตั้งแต่ราคา 500 บาทขึ้นไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความคุ้มครองว่าครอบคลุมอะไรบ้าง สำหรับฟูได้ทำประกันเดินทางไป 1,510 บาทค่ะ

5. ค่าทำวีซ่า

ฟูเลือกทำวีซ่าที่สถานฑูตอิตาลีค่ะ เพราะว่าฟูไปอิตาลีมากกว่า และผ่านง่ายด้วย แทบจะไม่ยุ่งยากอะไรเลย การทำวีซ่านั้นต้องเป็นวีซ่าเชงเก้นนะคะ เพื่อที่เราสามารถเดินทางไปยังประเทศอื่นได้ด้วย ซึ่งใช้เงินสดประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งเราสามารถเลือกได้จะมารับด้วยตัวเอง หรือส่งไปรษณีย์ได้ค่ะ มาดูขั้นตอนยื่นวีซ่าที่อิตาลีรวมถึงเอกสารต่างที่เตรียมอย่างละเอียดได้ที่นี้ค่ะ

6. อาหารการกินในประเทศต่างๆ

สำหรับสวิตเซอร์แลนด์ ก็รู้ๆกันอยู่นะคะว่าค่าครองชีพแพงมาก อาหารแต่ละมื้อก็เช่นกัน แต่ถ้าให้เราไปอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ มันก็กระไรอยู่ มาเที่ยวทั้งนี้จะกินแต่อาหารกระป๋องก็ไม่ใช่ เราสามารถเลือกกินอาหารได้ตามสถานีรถไฟหลักบางแห่งได้ค่ะ เช่น สถานีรถไฟลูเซิร์น จะมีอาหารไทย หรืออาหารอื่นๆก็เป็นราคาที่เราจับต้องได้ ประมาณ 14 ฟรั่งค์ หรือประมาณ 500 บาท ซึ่งถ้าเป็นคนไทยด้วยกันจะน่ารักมากค่ะ เค้าจะตกให้เยอะมากจนกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน และถ้ามีอาหารต่างชาติก็ไม่ห่างจากนี้เท่าไหร่ค่ะ เช่น ไส้กรอกรมควันที่อร่อยที่ซู้ดดด จนลืมไส้กรอกที่เคยกินมาทั้งชีวิตเลย ราคาก็ไม่ห่างกันมากค่ะ อีกวิธีนึงนะคะ คือซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ พอตกดึกเค้าจะลดราคาอาหาร ก็เป็นอีกวิธีนึงนะคะที่สามารถซื้ออาหารได้ในสวิตเซอร์แลนด์ในราคาที่ถูก (อยากรู้อาหารขึ้นชื่อในสวิตเซอร์แลนด์คลิ๊กค่ะ)

สำหรับอิตาลีค่ะ เนื่องจากแผนเดินทางของฟูต้องเดินทางเยอะ เพื่อไปเที่ยวได้เยอะ ส่วนใหญ่แล้วในช่วงเช้าและกลางวันจะซื้อแซนวิช หรืออาหารมากินบนรถไฟค่ะ เพื่อที่ประหยัดเวลาเดินทางด้วย เนื่องจากประเทศอิตาลีสามารถกินอาหารบนรถไฟได้ด้วยกัน ราคาแซนวิชที่อิตาลีนั้นก็มีตั้งแต่ราคา 2 ยูโรขึ้นไป ซึ่งไม่แพงเลย แถมชิ้นเบ้อเร้อกินคนเดียวแทบไม่หมดค่ะ (อยากรู้อาหารการกินในอิตาลีคลิ๊กค่ะ)

7. ค่าใช่จ่ายอื่น เช่น ค่าธรรมการจองรถไฟชมวิว Berninal Express ค่าเดินทางภายในเมือง ค่าเข้ากรุงวาติกัน ค่าตั่วดูบอลในอิตาลี

แผนเดินทางของฟูคืออยากไปนั่งรถไฟชิว ๆ ชมธรรมชาติสวย ๆ จึงเลือกนั่งรถไฟวิว Berninal Express (เบอร์นินา) ซึ่งเริ่มขึ้นที่เมืองคูร์ ที่สวิสเซอร์แลนด์ และไปสิ้นสุดที่เมือง Tirano ที่อิตาลีนั่นเอง เนื่องจากฟูใช้ swiss pass จึงไม่เสียค่าตั่ว แต่จะเสียค่าธรรมเนียมการจองประมาณ 470 บาท ซึ่งเรามีแผนเดินทางวันไหน ควรที่จะจองที่นั่งล่วงหน้าไปก็ดีนะคะ วิธีการจอง Berninal Express (เบอร์นินา) ดูได้ที่นี้ค่ะ ถามความเห็นฟูส่วนตัวว่าชอบมาก พอได้ไปนั่งก็ชอบมากค่ะ แต่ที่สวิสเซอร์แลนด์ยังมีรถไฟชมวิวอีกหลายที่นะคะ สามารถดูได้ที่นี้เลยค่ะ

ค่าเดินทางภายในเมืองอิตาลี ก็เน้นเดินเท้า กับขึ้นรถเมล์ รถไฟค่ะ เพราะว่าแต่ละเมืองในอิตาลีสามารถเดินเที่ยวได้ หรืออาจจะซื้อตั๋วราย 24 ชั่วโมง หรือรายเที่ยวก็ไม่แพงมากค่ะ สำหรับรายเที่ยวอยู่ที่ และตั๋วราย 24 ชั่วโมงอยู่ที่

และฟูได้มีโอกาสไปดูบอลที่อิตาลีด้วยยย อาจเป็นความฝันของใครหลายคน ซึ่งซึ่งได้ดู ROMA-SPAL ซื้อตั๋วประมาณ 35 ยูโร หรือประมาณพันกว่าบาท ตอนแรกกะไปดู Inter ที่มิลาน มัวแต่รอตั๋วราคาถูกนั่นแหละ รอไปรอมาก็ได้ราคาถูกนะคะ แต่ไม่ยอมจองเลยอดไป แต่ก็มีโอกาสไปสนามบอล Sanziro ที่นั้น

ส่วนกรุงวาติกัน ฟูซื้อตั๋วเข้าเป็นเต็มวันแบบทัวร์ค่ะ เค้าพาเราไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วาติกัน และไปเที่ยวที่อื่นด้วยนอกโรม ถ้าใครอยากเข้าแค่วาติกันอย่างเดียวก็ไม่แนะนำนะคะ ซึ่งฟูซื้อตั๋วไปประมาณ 1,500 กว่าบาท สำหรับการซื้อตั๋วเข้าวาติกันได้ที่นี่เลยค่ะ

สำหรับซิมมือถือ และเน็ตฟูเลือกใช้

เห็นไหมค่ะว่าการไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เมืองในฝัน และอิตาลีด้วยงบไม่บานปลายไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมยังสามารถเลือกกินอาหารดีดีด้วยด้วย และเดินทางด้วยตัวเองง่าย ๆ สำหรับใครอยากรู้นะคะว่าฟูไปเที่ยวไหนบ้างหรืออยากเห็นแผนเดินทางของฟูสามารถเข้ามาดูกันได้เลยค่ะที่นี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

Eurail Pass ตั๋วรถไฟเดินทางท่องเที่ยวยุโรป
รถไฟชมวิวเบอร์นินา Berninal Express

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Eurail Pass ตั๋วรถไฟเดินทางท่องเที่ยวยุโรป

เคล็บลับเที่ยวสวิส-อิตาลี 11 วันด้วยตัวเองกับงบประมาณ 5 หมื่น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Eurail Pass ตั๋วรถไฟเดินทางท่องเที่ยวยุโรป

วิธีเดินทางจากสนามบินอิสตันบูลเข้าเมือง-เมืองเข้าสนามบิน-สนามบินอิสตันบูลไปสนามบินซาบีฮา

รถไฟชมวิวเบอร์นินา Berninal Express

เที่ยว Cappadocia ในตุรกี เมืองที่มีดีมากกว่าบอลลูน